วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

หน่วยที่ 2 ตำแหน่งงาน และ ลักษณะการต่อชิ้นงาน


หน่วยที่ 2 
ตำแหน่งงาน และ
 ลักษณะการต่อชิ้นงาน

   
  จุดประสงค์
1. เข้าใจท่าเชื่อมพื้นฐานในงานเชื่อม
2. รู้รอยต่อและชนิดของรอยต่อ
  ชนิดของรอยต่อ
ท่าเชื่อมพื้นฐานในงานเชื่อม  (Welding Position)
ในงานเชื่อมไม่ว่าจะเป็นเชื่อมแก๊ส หรือเชื่อมไฟฟ้า ท่าเชื่อมที่สามารถทำการเชื่อมได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด นั่น
คือ การเชื่อมท่าราบ แต่สภาวะจริงในการปฏิบัติงานไม่สามารถเลือกท่าเชื่อมที่ถนัดได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของงานที่ทำอยู่ สำหรับ
ท่าเชื่อมหรือตำแหน่งของการเชื่อมทั้งเชื่อมแก๊ส และเชื่อมไฟฟ้านั้น พอจะแบ่งลักษณะได้ดังนี้
1.ท่าราบ 
ใช้สัญลักษณ์ F (FLAT POSITION) เป็นการเชื่อม ชิ้นงานที่วางอยู่ในระนาบเดียวกันกับพื้นราบซึ่งไม่ มีปัญหาเรื่องแรงดึงดูดของโลก จึงเป็นท่าเชื่อมที่เชื่อมง่ายกว่าท่าเชื่อม อื่น ๆ
2.ท่าขนานนอน 
ใช้สัญลักษณ์  H (horizontal  position) หรือท่าระดับเป็นการเชื่อมชิ้นงานที่วางอยู่ในแนวระดับ ซึ่งขนานกับแนวระนาบ ในการเชื่อมท่าเชื่อมนี้นั้น แรงดึงดูดของโลกจะมีผลต่อ การเชื่อม ทำให้เกิดข้อบกพร่อง คือรอยแหว่ง(Undercut) ขอบด้านบนของรอยเชื่อม
3.ท่าตั้ง
ใช้สัญลักษณ์  V (vertical position) เป็นการเชื่อมชิ้นงานที่วางอยู่ในแนวดิ่ง ซึ่งตั้งฉากกับแนวระดับ ในการ เชื่อมท่านี้นั้นแรงดึงดูดของโลก จะมีผลต่อการเชื่อมเช่นกัน ตามทิศทางของ การเชื่อม
4.ท่าเหนือศีรษะ 
 ใช้สัญลักษณ์  OH (overhead position) เป็นการเชื่อมชิ้นงานที่วางอยู่ในแนวระนาบ ในระดับ เหนือศีรษะของผู้เชื่อม ในการเชื่อมท่านี้นั้น แรงดึงดูดของโลก มีผลต่อการเชื่อมเป็นอย่างมากทั้งข้บกพร่องในรอยเชื่อมและอันตรายจากสะเก็ดไฟโลหะที่หลอมละลาย  และความร้อนจากเปลวไฟที่สะท้อนกลับ
5.ท่าขนานนอน  
ใช้สัญลักษณ์  H (horizontal position
    รอยต่อและชนิดของรอยต่อ
1.รอยต่อชน (Butt Joint)
2.รอยต่อเกย (Lap Joint)
3.รอยต่อขอบ (Edge Joint)
4.รอยต่อมุม (Cornor Joint)

5.รอยต่อตัวที (T-Joint)
    การบากร่องรอยต่อ
ในการเชื่อมงาน แนวเชื่อมจะต้องมีความแข็งแรงเท่ากับหรือมาก
กว่าชิ้นงานที่นำมาเชื่อม แนวเชื่อมจะต้องมีการหลอมละลาย
ตลอดความหนาของงาน ถ้าชิ้นงานไม่หนามากนักก็สามารถเชื่อมได้
ทันที แต่ถ้าชิ้นงานมีความหนาเกินกว่า 3 มิลลิเมตรขึ้นไป จะต้องมี
การบากร่องชิ้นงาน เพื่อเกิดการซึมลึกและได้เนื้อรอยเชื่อมที่มากพอ
ที่จะทำให้เกิดความแข็งแรง ซึ่งการออกแบบการบากร่องนี้ จะทำการ
บากร่องแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นงานเป็นหลัก


6 ความคิดเห็น: